top of page

สุภาษิตพระร่วง

ผู้แต่ง :

สันนิษฐานกันว่าพ่อขุนรามคำแหงเป็นผู้พระราชนิพนธ์



ความมุ่งหมาย :

เพื่อสั่งสอนประชาชน และเพื่อสร้างวัฒนธรรมและอุดมการณ์ของคนไทย



ลักษณะการแต่ง :

สุภาษิตพระร่วงเป็นวรรณคดีเล่มแรกที่แต่งเป็นคำประพันธ์ประเภทร่ายโบราณ แจบแบบร่ายสุภาพ นั่นคือจบด้วยโคลงสองสุภาพ และมีโคลงกระทู้ลงท้ายตอนจบอีก ๑ บท บางท่านเรียกว่า ร่ายลิลิต เพราะมีร่ายแล้วมีโคลงตอนจบ ๑ บท เป็นภาษิตไทยแท้ ใช้ถ้อยคำอย่างพื้นๆ ยังไม่มีภาษิตต่างประเทศเข้ามาปะปน แสดงว่าเป็นภาษิตไทยเก่าแก่ที่ติดปากคนไทยสืบมา



เื้นื้อหาสาระ :

เริ่มด้วยพระร่วงแห่งกรุงสุโขทัยทรงมุ่งหวังประโยชน์ในภายหน้า  จึงทรงบัญญัติสุภาษิตเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติประชาชน   มีสุภาษิต  ทั้งหมด  158 บท



คุณค่า :

1.      ด้านภาษา   สำนวนภาษาที่ใช้ในสุภาษิตนี้ใช้ถ้อยคำง่ายๆ  คล้องจอง  กะทัดรัด  ไม่มีศัพท์สูง  จึงทำให้น่าอ่านเพราะง่ายต่อการเข้าใจและจดจำ
2.      ด้านสังคม    คนไทยได้นับถือสุภาษิตพระร่วงเป็นแนวในการดำเนินชีวิตมาช้านาน      เพราะสุภาษิตพระร่วงนี้ให้คติทั้งในทางโลกและทางธรรม   คนไทยได้ชื่อว่าเป็นคนเจ้าสุภาษิตเจ้าบทเจ้ากลอนอยู่แล้ว     จึงถือได้ว่าสุภาษิตพระร่วงเป็นสุภาษิตที่เป็นหลักฐานในสังคมไทยมาช้านาน   และภาษิตบางอย่างเราก็ยึดถือกันมาจนทุกวันนี้
3.      ด้านค่านิยมทางสังคม   เช่น   มีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์   ส่งเสริมการศึกษารู้จักประมาณตน  ไม่โอ้อวด   สร้างไมตรีไม่เบียดเบียนมิตร  รักเกียรติและศักดิ์ศรีมากกว่าทรัพย์  เป็นต้น
4.      ด้านอิทธิพลต่อกวียุคหลัง   กวีรุ่นหลังใช้นำไปอ้างในวรรณคดีเรื่องต่างๆ   เช่น  มหาเวสสันดรชาดก  เพลงยาวถวายโอวาท  และขุนช้างขุนแผน  เป็นต้น



ตัวอย่างบางตอน :

เมื่อน้อยให้เรียนวิชา   ให้หาสินเมื่อใหญ่  อย่าใฝ่เอาทรัพย์ท่าน   อย่าริร่านแก่ความ  เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า  หน้าศึกอย่านอนใจ  ไปเรือนท่านอย่านั่งนาน   การเรือนตนเร่งคิด   อย่านั่งชิดผู้ใหญ่   อย่าใฝ่สูงให้พ้นศักดิ์   ปลูกไมตรีอย่ารู้ร้าง   สร้างกุศลอย่ารู้โรย  หว่านพืชจักเอาผล  เลี้ยงคนจักกินแรง   น้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ   ที่ซุ้มเสือจงประหยัด  มีสินอย่าอวดมั่ง  ผู้เฒ่าสั่งจงจำความ   ครูบาสอนอย่าโกรธ  โทษตนผิดพึงรู้   อย่าขอของรักมิตร  ชอบชิดมักจางจาก  ภายในอย่านำออก   ภายนอกอย่านำเข้า   อาสาเจ้าจนตัวตาย  อาสานายจงพอแรง   ยอข้าเมื่อเสร็จกิจ   ยอมิตรเมื่อลับหลัง   อย่าขุดคนด้วยปาก  อย่าถากคนด้วยตา  อย่าพาผิดด้วยหู  อย่าเลียนครูเตือนด่า  อย่าริกล่าวคำคด  คนทรยศอย่าเชื่อ  อย่ามักง่ายมิดี  อย่าตีงูให้แก่กา  อย่ารักเหากว่าผม  อย่ารักลมกว่าน้ำ   อย่ารักถ้ำกว่าเรือน  อย่ารักเดือนกว่าตะวัน

bottom of page